ในทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการขายของออนไลน์นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ต้องทำเพื่อให้ธุรกิจของเราดำเนินกิจการต่อไปได้ สำหรับใครที่ทำธุรกิจออนไลน์ออฟไลน์อยู่ และต้องการที่จะเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์ วันนี้ บริษัทดังปัง จะมาเล่าให้ฟังถึงสิ่งที่ต้องมีก่อนเริ่มขายของออนไลน์กันครับ
1 ชื่อร้าน
แน่นอนว่าหากคุณเคยทำธุรกิจออฟไลน์อยู่แล้วนั้น คุณจะต้องมีชื่อร้านอยู่แล้วและคุณสามารถที่จะใช้ชื่อร้านออฟไลน์มาตั้งในโลกออนไลน์ได้ แต่ก็มีอีกหลายเทคนิคในการตั้งชื่อร้านออนไลน์เพื่อให้คนเข้าถึงร้านค้าของเราได้ง่ายที่สุด ขอแนะนำการตั้งชื่อร้านง่ายๆดังนี้
- ชื่อร้านต้องอ่านง่าย บางทีชื่อร้านที่ออกเสียงยากหรือไม่คุ้นหูมีผลทำให้ไม่เกิดการจดจำเพราะว่ามันยากต่อการจดจำเกินไป บางครั้งลูกค้าก็กลัวจะออกเสียงผิดจึงไม่กล้าอ่านชื่อร้านของคุณ
- ชื่อร้านต้องจดจำง่าย ถ้าเป็นไปได้ต้องถึงขนาดเห็นปุ๊กรู้ครับว่าคุณขายอะไรทันที ดังนั้นการตั้งชื่อร้านในโลกออนไลน์จึงมีการใช้คำของสินค้าหรือบริการมาตั้งเป็นชื่อร้านกันอย่างแพร่หลาย
- ชื่อร้านต้องค้นหาง่าย เพราะสมัยนี้เวลาเราต้องการหาสินค้าหรือบริการอะไรก็ตาม เรามักจะหาจาก Google หรือ Facebook ดังนั้นหากชื่อร้านของเราพิมพ์ยากจดจำยากและค้นหายากโอกาสที่จะทำให้ลูกค้าเข้ามาถึงร้านของเรานั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
2 สินค้า
หากคุณขายสินค้าในโลกออฟไลน์อยู่แล้วนั้น การขายสินค้าในโลกออนไลน์คงไม่ใช่เรื่องยาก ก็แค่เพียงนำสินค้ามาโพสต์ลงเว็บไซต์หรือ Facebook Fanpage ของตัวเอง แต่หากคุณยังไม่เคยขายอะไรมาก่อนผมก็มีวิธีการเลือกง่ายๆมาให้ครับ
- เลือกจากสิ่งที่ชอบ คุณชอบทำอะไร คุณทำอะไรได้บ่อยๆ ก็ให้นำสิ่งนั้นมาเป็นอาชีพเช่นคุณชอบปลูกต้นไม้ ก็ให้ปลูกต้นไม้ขายเลย
- เลือกจากตลาด เป็นการสำรวจตลาดดูว่าในช่วงนี้อะไรกำลังนิยมอะไรเป็นที่ต้องการของตลาด และอะไรน่าจะทำกำไรได้ดี เช่นช่วงนี้คนกำลังนิยมไม้ด่าง คุณก็อาจจะปลูกไม้ด่างขายไปเลย
3 เงินทุน
แน่นอนว่าการเริ่มต้นขายของนั้นต้องมีทุน ไม่ว่าจะเป็นในการซื้อสินค้ามาขาย การสร้างร้านค้าออนไลน์ website Fanpage การทำป้าย Banner ต่างๆ ทั้งป้ายแนะนำร้านค้า ป้ายแนะนำสินค้า และเงินในการลงโฆษณา พวกนี้ต้องใช้เงินทุนในการทำทั้งนั้น
4 แผนการตลาด
หากใครที่ไม่เคยเรียนการตลาดมาก่อนอาจจะมองเรื่องนี้เป็นเรื่องยากในการวางแผน แต่ผมจะขออธิบายสั้นๆง่ายๆให้เข้าใจว่าทำไมเราถึงต้องมีการวางแผนการตลาดดังนี้ครับ
- ทำให้เรารู้ว่าเราจะขายสินค้าให้ใคร ( กำหนดกลุ่มเป้าหมาย )
- ทำให้เรารู้ว่าจะขายสินค้านี้อย่างไร ( กำหนดช่องทางขาย )
- ทำให้เรารู้ว่าเราจะใช้งบในการทำโฆษณาเท่าไหร่ จะได้วัดผลได้ว่าการที่เราลงทุนไปนั้นสำเร็จหรือไม่
ในบทความนี้ผมจะไม่ขยายส่วนของแผนการตลาดนะครับ เอาไว้ในบทความต่อๆไป จะมาอธิบายเพิ่มเติมให้ครับ
5 ช่องทางชำระเงิน
การจ่ายเงินเป็นเรื่องที่สำคัญมากยิ่งมีช่องทางชำระเงินมากก็จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินเข้าธนาคาร การจ่ายด้วย QR Code การจ่ายด้วยพร้อมเพย์ หรือการรับชำระด้วยบัตรเครดิต หากมีช่องทางชำระเงินที่มาก ลูกค้าก็จะตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
( ร้านค้าเล็กๆใน Facebook ก็สามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตได้นะครับ )
Add comment