6 ทำเลทองของธุรกิจออนไลน์

สำหรับใครที่คิดจะเปิดร้านค้านั้นก็คงต้องไปดูทำเลที่ตั้งอย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นแล้วเราก็พอจะเดาออกว่าอนาคตคงไปไม่รอดแน่หาสถานที่ตั้งนั้นไม่มีใครรู้จักหรือเดินทางไปถึงลำบาก ในการทำธุรกิจออนไลน์ก็เช่นกันก่อนที่เราจะเริ่มต้นทำธุรกิจเราก็ต้องมีการดูทำเลที่ตั้งด้วยเช่นกันว่าสินค้าที่เราจะขายนั้นเหมาะกับพื้นที่แบบไหนบนโลกออนไลน์วันนี้จะมานำเสนอวิธีการเลือกว่าสินค้าของเรานั้นเหมาะกับช่องทางการขายใด

ก็ต้องมาดูก่อนว่าบนโลกออนไลน์นั้นมีพื้นที่แบบไหนอยู่บ้าง

1.  Facebook
2.  YouTube
3.  Instagram
4.   เว็บไซต์
5.  Line OA
6.  Twitter

 หลังจากนั้นเราก็มาดูกันว่าแต่ละ platform พฤติกรรมผู้บริโภคที่อยู่ในแพลตฟอร์มนั้นเป็นอย่างไร

1.  Facebook - ผู้ที่เข้าไปเล่น Facebook นั้นชอบแชร์เรื่องราวของตนเองชอบแชร์รูปภาพของตนเองและสามารถมีเอ็นเกจเม้นท์คือการกด Like comment Share กับโพสต์นั้นได้ Content ใน Facebook นั้นมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นตัวหนังสือ รูปภาพ วีดีโอ ไลฟ์สด แต่ทั้งหมดนั้นก็ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า Facebook เปรียบเสมือนการเปิดคีออสในห้างต่างๆหมายความว่าเราต้องทำตามกฎของ Facebook ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าตาของร้านค้าข้อความที่ใส่รูปภาพที่ใส่ต้องเป็นไปตามกฎของ Facebook ทั้งหมดครับ

2.  YouTube -  platform วีดีโอเป็นแพลตฟอร์มที่มีการสอนเยอะที่สุดมีการสอนทุกหมวดมีทั้งวีดีโอสั้นวีดีโอยาวคนที่เข้าไปใน YouTube ส่วนใหญ่นั้นจะเข้าไปเพื่อเรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองต้องการเป็นแบบ Shortcut วีดีโอต้องการรู้เรื่องนี้เข้าไปหาเนื้อหาสอนเฉพาะเรื่องนี้ดังนั้น Content จึงต้องสั้นกระชับวัยตรงประเด็นและเป็นการให้ความรู้ส่วนใหญ่

3.  Instagram -  แบบฟอร์มรูปของบริษัท Facebook ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับโชว์รูปภาพสวยๆแพลตฟอร์มนี้จะเหมาะกับการเป็นแคตตาล็อกสำหรับแสดงสินค้าที่เรามีหรือหากเราเป็นร้านอาหารร้านกาแฟก็จะเป็นการโชว์มุมถ่ายรูปสวยๆภายในร้านโชว์เครื่องดื่มหรืออาหารเพื่อให้ผู้ที่สนใจอยากมีรูปสวยๆได้เห็นบรรยากาศภายในร้านได้เห็นอาหารและเครื่องดื่มภายในร้านและอยากเข้ามาใช้บริการกับทางร้าน

4. เว็บไซต์ - เว็บไซต์เปรียบเสมือนการสร้างร้านค้าเป็นของตัวเองเพราะเราสามารถตกแต่งร้านค้าเป็นรูปแบบไหนก็ได้ตามใจเราไม่มีกฎตายตัวในการสร้างร้านค้าและร้านค้าสามารถใส่ฟังก์ชั่นช่วยเหลือในการขายสินค้าของเราได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นระบบตะกร้าสินค้าระบบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตพร้อมเพย์ QR Code ที่สามารถชำระเงินออนไลน์ผ่าน Mobile Banking ทั้งหมดและออกออเดอร์เพื่อทำการจัดส่งสินค้าถึงลูกค้าได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องรอการเช็คจากระบบ ดังนั้นแล้วใครก็ตามที่อยากเปิดร้านค้าสร้างความน่าเชื่อถือก็ควรจะต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองเช่นกัน

5.  LINE OA -   Platform LINE OA ทั้งหมดนั้นถูกสร้างมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร คือเป็นแบบในการคุยกันเท่านั้น LINE OA พิเศษตรงที่สามารถบอร์ดคลาส Message ออกไปได้นั่นก็คือสามารถส่งข้อความเดียวกันถึงกลุ่มลูกค้าที่เราตั้งค่าเอาไว้พร้อมกันทั้งหมดได้ LINE OA จึงเป็นเครื่องมือในการทำ CRM ที่ดีที่สุดที่ใช้ในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าของเราแล้ว

6.   Twitter - แพลตฟอร์มสำหรับส่งข้อความสั้นนั่นคือทวิตเตอร์สามารถพิมพ์ตัวอักษรได้เพียง 140 ตัวอักษรเท่านั้นและสามารถใส่รูปได้เพียงแค่ 4 รูปหรือใส่วีดีโอได้ไม่เกิน 2 นาทีเท่านั้น Twitter จึงเป็นแบบฟอร์มที่เป็นการสรุปเนื้อหามาแล้วสั้นๆเพื่อให้เกิดความเข้าใจได้อย่างง่ายและรวดเร็วที่สุดเปรียบเสมือนการจั่วหัวการพาดหัวเพื่อให้คลิกเข้าไปอ่านเนื้อความเพิ่มเติมจากลิงค์ต่อไป

จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้นจะเห็นได้ว่าแต่ละแบบฟอร์มก็จะมีความสามารถและพฤติกรรมของคนที่เข้าไปเล่นไม่เหมือนกันดังนั้นแล้วใครก็ตามที่อยากจะเปิดร้านค้าออนไลน์ขึ้นมาและมีคำถามในใจว่าเราควรจะเปิดทุกแพลตฟอร์มหรือไม่ หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้แล้วนั้นผมก็หวังว่าคุณจะพอตัดสินใจได้แล้วว่าเราควรจะเปิดเฉพาะ  platform ที่เหมาะสมกับร้านค้าของเราเองเท่านั้น

 และสำหรับใครที่ต้องการเปิดร้านค้าออนไลน์แต่ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเปิดช่องทางไหนบ้างหรือเปิดอย่างไรสามารถส่งคำถามเข้ามาปรึกษากับผมได้นะครับ